ข้าพเจ้าจะนับถือศาสนาขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าจะยึดถือเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกถึง ไม่มีที่พึ่งอื่นที่ยิ่งกว่าในชีวิตของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะติดตามยึดถือศึกษาศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ทรงตรัสสั่งสอนไว้แล้วให้ถึงที่สุด
ข้าพเจ้าจะพยายามปฏิบัติตามคำสอนเหล่านั้นให้อย่างยิ่ง แม้จะถึงซึ่งชีวิตก็ไม่เสียดาย
ข้าพเจ้าจักกระทำการทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อจักเป็นการเชิดชูพระบวรพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองไปในการเบื้องหน้านั้นด้วยพันปี จนกว่าศาสนาของสมเด็จพระบรมศาสดาจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ข้าพเจ้าจักทำการสักการะบูชาด้วยประการทั้งปวง แด่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และคุณพระรัตนตรัยอันเป็นที่พึ่งที่ระลึกถึงไม่ว่างเว้น
ถาม : คำตอบและคำถามในหนังสือมิลินทปัญหานั้นเป็นพระพุทธพจน์ หรือใครแต่งขึ้นเองในภายหลัง?
ตอบ : ถามเรื่องนี้ก็ดีแล้ว เพราะมีคนสงสัยอันมากว่าพระยามิลินท์นั้นมีความเป็นมาอย่างไร เสียงก็ไม่เหมือนชาวตะวันออกทั้งหลาย อันพระยามิลินท์นั้น ชั้นเดิมเป็นคนฝรั่งชาติกรีก รู้ตัวว่าเป็นชนที่มีอารยะ ผู้มีเดชอภินิหารและกฤษฎาภินิหาร ผู้ยิ่งใหญ่ในทางตะวันตก เคยได้ยินว่าทางตะวันออกนี้มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นเวลานาน
พระยามิลินท์เองนั้นนัยหนึ่งชื่อตามภาษากรีกหรือภาษาตะวันตกว่า "เมนันเดอร์ที่ ๒" เจ้าแผ่นดินองค์นี้มีความเชี่ยวชาญสามารถในการปราบปรามและรบทัพจับศึกเป็นอันมาก สมัยโน้นพวกเขาทั้งหลายเหล่านี้ ยังไม่มีศาสนาอันแท้จริง ก็ได้แต่นับถือเทวดาและเทพเจ้า พระสรวงสวรรค์ตามความรู้สึกของเขา เมื่อได้ข่าวว่าทางบูรพาประเทศนี้มีสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นเจ้าของศาสนาอันเป็นศาสนาที่คนนับถืออย่างยิ่งทางตะวันออกนั้น พระเจ้าเมนนัเดอร์ที่ ๒ ได้ทราบกิติศัพท์ล่ำลือเช่นนี้ก็นึกในใจว่า พระศาสดาของชาวพุทธทั้งหลายที่อยู่ในตะวันออกนี้จะมีความสามารถ ความเชี่ยวชาญการสั่งสอนผู้คนสักเพียงใดอยากจะรู้ ครั้นจะให้ผู้อื่นมาสืบเรื่องดูก็ไม่ทราบความจริง
ด้วยอยากจะเห็นประจักษ์แก่ตาตนเอง จึงได้สั่งเสนาอำมาตย์ ผู้ใหญ่ปลอมตัวมาฟังข้อคิดเห็นของประชาชนที่นับถือศาสนา ของพระบรมศาสดาในสมัยนั้น ผู้ที่มาสืบราชการกลับไปกราบทูลแล้ว ก็ให้สงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า คำสอนของศาสนาดงค์นั้น เหตุไฉนจึงเป็นคำสอนที่แปลกประหลาดน่าเลื่อมใสเหลือประมาณ ใคร่จะได้สดับคำสอนนั้นด้วยตนเอง แต่ครั้งจะมาด้วยความอ่อนน้อม ก็เป็นการเสียเกียรติแห่งกษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ในอัสดงคตประเทศ เหตุนี้จึงหาโอกาสกรีฑาทัพมาเพื่อปราบปรามศัตรูให้เสร็จราบคาบไป และเพื่อจะแผ่กฤษฎาศักดาภินิหารให้แผ่ไปทั่วทุกทิศทั้งหลายว่า ตัวเรานี้มีความสามารถ เก่งกล้าในการรบทัพจับศึก สามารถจะตีเอาแผ่นดินได้แม้จะอยู่คนละฟากฟ้า ข้ามน้ำข้ามทะเล ก็หาย่อท้อไม่
ความคิดของพระเจ้าแผ่นดินองค์นั้นในสมัยนั้นเกิดเป็นความจริงขึ้น เพราะเหตุว่าในบรรดาชาวภาคตะวันออก ซึ่งในประเทศอินเดียในสมัยนั้น ต่างก็มีจิตใจเสื่อมจากคำสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ประชาชนในสมัยนั้นก็แบ่งออกเป็นหลายหมู่หลายเหล่าเป็นอันมาก เกิดการแตกแยกระส่ำระสายทั้วไปในประเทศอินเดีย หรือที่เรียกกันทั่วไปในสมัยนั้นว่า "ชมพูทวีป" โน้น
เมื่อกองทัพของกษัตริย์เมนันเดอร์ แห่งประเทศกรีก ผู้เกียงไกรได้รุกเข้ามาถึงประเทศอินเดียแล้ว ประชาชนชาวอินเดียทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นประเทศน้อย ประเทศใหญ่ ที่แตกแยกออกไปขณะนั้นอ่อนกำลังลงอย่างน่าสงสาร จึงพ่ายแพ้แก่กองทัพอันเกรียงไกรของพระเจ้าแผ่นดินฝรั่ง
ในที่สุดประเทศอินเดียทั้งประเทศก็ตกอยู่ในอำนาจของพระเจ้าเมนันเดอร์ พระเจ้าแผ่นดินองค์นี้มีจิตที่จะศึกษา เพราะความเฉลียวฉลาดเป็นนักปราชญ์ ได้พยายามศึกษาศาสนาของชนชาติต่าง ๆ ที่ได้กรีฑาทัพไปปราบปรามเอาเป็นเมืองขึ้น ได้ชัยชนะเป็นอันมากก็ศึกษาศาสนาของประเทศนั้น ๆ มา ได้ฟังคำสั่งสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในครั้งกระนั้นกับผู้ที่ได้ส่งมาสืบราชการไปแล้ว ก็มีความเลื่อมใสศรัทธาประสาทะอยู่ในดวงจิตเป็นอันมากแล้ว ครั้นได้เป็นใหญ่อยู่ในชมพูทวีปปกครองทั่วประเทศอินเดียนั้น ได้มีความประสงค์ที่จะเสาะหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ในการที่จะสอนพระพุทธศาสนา ให้เข้าถึงซึ่งความรู้อันแท้จริงของศาสนาอันน่าประหลาดมหัศจรรย์นี้
การสืบหาตัวผู้ที่จะทำการสอนศาสนาในสมัยนั้นย่อมไม่เป็นของยาก เพราะเหตุว่าพระศาสดาทั้งหลาย และเจ้าลัทธิทั้งหลายต่างก็พยายามจะแข่งแย่งที่จะชิงดีกัน เพื่อจะเอาความเด่นให้เป็นที่เคารพบูชาเลื่อมใสนับถือของประชาชนเป็นอันมาก ศาสนาของสมเด็จพระบรมศาดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลานั้นมีสงฆ์ผู้เป็นอริยสงฆ์หลายองค์ด้วยกัน อริยสงฆ์เหล่านั้นบางองค์ก็ได้ถึงขั้นอรหันต์เป็นต้น ผู้มีความเชี่ยวชาญในธรรมะ ทั้งปริยัติธรรม พระอภิธรรมทั้งปวง
ในสมัยนั้นมีพระสงฆ์องค์หนึ่ง ทรงเป็นอริยสงฆ์ชั้นสูงสุด กล่าวกันว่าป็นผู้สำเร็จอรหัตมรรคอรหัตผลไปแล้วแต่ยังมีชีวิตอยู่ อรยิสงฆ์ผู้นั้นได้แก่ "พระนาคเสนมหาเถระ" กิตติศัพท์เลื่องลือไปถึงพระเจ้าเมนันเดอร์ว่า มีพระสงฆ์องค์หนึ่งมีความเชี่ยวชาญในทางธรรมอย่างสูงสุด ไม่มีผู้ใดจะสามารถเทียมทันได้ในสมัยนั้นแล้ว เจ้าแผ่นดินในประเทศอินเดียในระยะนี้จึงให้คนไปอารธนาพระนาคเสนมหาเถระมาสู่สำนัก แล้วตั้งข้อปุจฉาวิสัชนา ไต่ถามซึ่งศาสนาพระบรมศาสดาสัมสมสัมพุทธเจ้า คำสอนอันยิ่งใหญ่และความจริงที่ไม่มีกาลเวลาลุล่วงไปได้
เมื่อพระนาคเสนมหาเถระมาถึงในที่พระบรมมหาราชวังแล้ว ถูกตั้งปัญหาถามถึงเรื่องในข้อธรรมะต่าง ๆ ในศาสนาพุทธนี้พระนาคเสนมหาเถระเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้ที่มีปฏิสัมภิทาญาณอย่างสูง พระสัมภิทาญาณ และปฏิสัมภิทาญาณอย่างอื่น สามารถตอบปัญหาและแก้ปัญหาธรรมที่พระเจ้าแผ่นดินองค์นั้นได้ถามมาอย่างแจ่มแจ้งไม่มีเคลือบแฝงสงสัย ทั้งมีเหตุผลอย่างยิ่ง
การสอบถามครั้งนั้นได้กระทำกัน ๗ วัน ๗ คืน ปัญหาที่เรียกกันในปุถุชน หรืออย่างที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ปัญหาร้อยแปด หมายความว่า นึกถึงเรื่องอันใด ถามอะไรก็ถามมา เป็น ทางศาสนาใด ๆ ได้ทั้งสิ้น หรือแม้จะเป็นเรื่องชาวบ้านทางโลกีย์ สุขโลกุตตรทั้งปมวล พระนาคเสนมหาเถระก็สามารถแก้ข้อคำถามเหล่านั้นได้หมด นำดวงจิตของพระเจ้าแผ่นดินองค์เข้าสู่ธรรมะอย่างแท้จริง เหตุเพราะพระนาคเสนมหาเถระเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิปัสสนาตุระและคันถธุระอย่างยิ่ง กล่าวกันว่าไม่มีผู้ใดจะเปรียบเทียบได้ พระนาคเสนมหาเถระเป็นผู้เฉลียวฉลาดในการแก้ปัญหาธรรมทั้งปวง สามารถจะนำปัญหาที่พระเจ้าแผ่นดินองค์นั้นถามมาแล้ว แม้จะเป็นปัญหาธรรมดาเข้าสู่ธรรมะได้ทุกแง่ทุกมุม
เหตุนี้พระเจ้าเมนันเดอร์จึงเกิดความเลื่อมใสในศาสนาขององค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างใหญ่หลวง เกิดความปีติปลาบปลื้มยินดีในดวงจิตอย่างไม่เคยมีเลยในชีวิต ได้กล่าวปวารณาและตั้งสัจจาธิษฐานว่า ต่อแต่นี้ไปในเบื้องต้น ข้าพเจ้าจะนับถือศาสนาขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพเจ้าจะยึดถือเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกถึง ไม่มีที่พึ่งอื่นที่ยิ่งกว่าในชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะติดตามยึดถือศึกษาศาสนา ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ทรงตรัสสั่งสอนไว้แล้วให้ถึงที่สุด ข้าพเจ้าจะพยายามปฏิบัติตามคำสอนเหล่านั้นให้อย่างยิ่ง แม้จะถึงซึ่งชีวิตก็ไม่เสียดาย ข้าพเจ้าจักกระทำการทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อจักเป็นการเชิดชูพระบวรพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองไปในการเบื้องหน้านั้นด้วยพันปี จนกว่าศาสนาของสมเด็จพระบรมศาสดาจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ข้าพเจ้าจักทำการสักการะบูชาด้วยประการทั้งปวง แด่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และคุณพระรัตนตรัยอันเป็นที่พึ่งที่ระลึกถึงไม่ว่างเว้น
ได้ตั้งสัจจาธิษฐานอย่างนี้แล้วจึงมาจินตนาการว่า การที่เรายังมีชื่ออย่างอื่นเป็นชาวภาษาทางตะวันตกอยู่นั้น จะปกครองประเทศอินเดีย ซึ่งนับถือศาสนาเป็นอันมากนับลัทธิมิถ้วนได้ ให้มีความสมบูรณ์พูนสุขและเจริญได้ต่อไปอย่างไร และเราจักกระทำตนให้ชาวพุทธทั้งหลายมีความเลื่อมใสเคารพนับถือและยำเกรงเรา เชื่อฟงัเราได้อย่างไร มีอยู่ทางเดียวคือ เราจำต้องเปลี่ยนชื่อของเราเสียให้เป็นชื่อทางภาษาชาวบูรพาทิศนี้
ด้วยเหตุดังนั้นจึงได้นำข้อความนี้ไปปรึกษากับพระนาคเสนมหาเถระผู้อรหันต์ว่า จักเป็นการบังควรหรือไม่ที่พระองค์จะทรงเปลี่ยนพระนามเสียใหม่ ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ชาวอัศดงคตประเทศที่ติดตามมา และจักได้เป็นที่เคารพ เลื่อมใสของบรรดาชาวพุทธและชาวบูรพาประเทศในสมัยนั้น ที่จักตรรโลงบำรุงมุ่งให้ศาสนาพุทธรุ่งเรืองให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปภายภาคหน้า พระนาคเสนมหาเถระนั้นทูลตอบสนองไปว่า เป็นการควรอย่างยิ่ง เป็นอุบายอันฉลาดด้วยสติปัญญาอันรอบคอบ และปราชญ์เปรื่อง พระเจ้าเมนันเดอร์นั้นจึงได้เปลี่ยนนามเป็น "พระเจ้ามิลินทราชานาม" ของชาวบูรพา ในประเทศสมัยนั้น ให้ลบนามของพระเจ้าเมนันเดอร์ ซึ่งมาจากอัศดงคตประเทศเสีย เป็นเหตุให้บรรดาข้าราชการบริวาร ขุนนางทั้งปวงที่ติดตามมาในขบวนทัพและมาปกครองประเทศอินเดียในสมัยนั้น พากันเปลี่ยนชื่อเดิมของตนให้กลายเป็นของชาวบูรพาประเทศไปสิ้น
แต่นั้นมาพระยามิลินทราชาก็ได้พยายามศึกษาข้อธรรมทั้งปรมัตธรรม และอภิธรรม และการวิปัสนาธุระ และทำคันถธุระทั้งหลายให้เสร็จสิ้นจนเป็นที่ปรากฏเลื่องลือไปทั่วทิศานุทิศ ว่าพระเจ้ามิลิทราชานั้นแท้จริงคือชนชาวบูรพาประเทศนั่นเอง มิใช่ผู้มาจากอื่นไกลเลย ทำให้ประชาชนชาวบูรพาประเทศในสมัยนั้นพากันมีความเลื่อมใสเคารพนับถือ เป็นเหตุให้การปกครองบ้านเมืองในประเทศชมพูทวีปในระยะนั้น ตลอดจนทวีปลังกาซึ่งเป็นเมืองขึ้นของชมพูทวีประยะหนึ่ง ได้รับความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่ง และเป็นที่ยอมรับกันว่า พระศาสนาของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งใกล้ถูกเหยียบย่ำให้ล่มจมไปแล้วนั้นกลับฟื้นฟูขึ้นอย่างน่าประหลายมหัศจรรย์ กลายเป็นศาสนาที่มีผู้เคารพนับถือเป็นอันมากกว่าศาสนาอื่น ในสมัยนั้น เป็นเช่นนั้นต่อมาอีก
กาลนานประมาณสามร้อยกว่าปีเศษ ศาสนาขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาได้ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปจากจิตใจของประชาชนที่มีมิจฉาทิฏฐิ พยายามที่จะอวกแสดงตนว่าเป็นผู้รู้อันยิ่งใหญ่ เป็นครูบาอาจารย์อันประเสริฐ ละทิ้งธรรมขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาซึ่งไม่ประกอบด้วยกาลสมัยนั้นเสีย แล้วไปยึดถือเอาศาสนาของตนที่คิดขึ้นเองบ้าง ไปยึดถือศาสนาของผู้อื่นมาเป็นของตนบ้าง แล้วก็ดัดแปลงให้เป็นรูปอื่นต่อไป
นับตั้งแต่นั้นมา การพระศาสนาของสมเด็จพระบรมศาสดาฯ ซึ่งเผยแพร่อยู่ในชมพูทวีป และลังการทวีปนั้นเริ่มเสื่อมลงไปจากจิตใจของประชาชน เหตุที่เสื่อมนั้นมิใช่คำสอนของพระองค์จักเสื่อมก็หามิได้ เหตุเพราะจิตใจของประชาชนเสื่อมจากคำสอนของพระองค์ไป ด้วยเหตุว่าคำสอนนั้นเป็นสิ่งปฏิบัติได้ยาก
ครั้นนานต่อมาศาสนาขององค์สมเด็จพระศาสดาฯ จึงข้ามจากชมพูทวีปมาอยู่ในทวีปนี้ ดังที่พวกเจ้าทั้งหลายได้รับรู้กันอยู่ ในขณะนี้เป็นต้น การที่เจ้าถามว่าคำตอบคำถามในสมัยนั้นเป็นเรื่องที่ร้อยกรองขึ้นเอง หรือเป็นคำสอนมาจากคำสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาฯ โดยแท้จริงนั้น กล่าวได้ว่าอันพระนาคเสนมหาเถระผู้อรหันต์ในขณะนั้น ย่อมสามารถล่วงรู้ และจดจำคำสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาฯ ไว้ได้อย่างถูกต้องทุกประการ จึงกล่าวได้ว่าการตอบในปัญหาคำถามของประปัฐเวน หรือพระยามิลินท์นั้นเป็นคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้ หากมิได้ตรัสออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง เพราะเหตุใดในระยะนั้นองค์สมเด็จพระบรมศาสดาได้ทรงเข้าสู้ปรินิพพานเป็นกาลเวลาถึง ๕๐๐ ปี
เหตุนี้เจ้าทั้งหลายพึงรับทราบว่า ของที่เกิดขึ้นในขณะนั้นอันเนื่องมาจากการตอบคำถามของพระยามิลินทราชา เป็นคำสอนที่มาจากพระโอษฐ์ขององค์สมเด็จพระบรมศาสนาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้ แต่ผู้สอนนั้นมิใช่พระองค์สอนโดยพระองค์เองเท่านั้น เข้าใจหรือยัง
ปัญหาเรื่องนี้มีคนสงสัยกันมานับตั้ง ๑๐๐ ปีแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดกล่าวถามแก่ผู้ใดเลย อาจจะเป็นด้วยเหตุว่าต่างคนต่างนึกว่าคงจะไม่มีผู้ใดสามารถตอบคำถามเหล่านนั้นได้ เมื่อเจ้าถามมาเช่นนี้ดีแล้ว จะพึงจดจำข้อความที่ข้าได้เล่าให้เจ้าฟังวันนี้ไว้ เพื่อเจ้าจักได้แก้ข้อสงสัยแก่ผู้อื่นถ้าจะเกิดขึ้น โดยเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ฟังอย่างพวกเจ้าในที่นี้.
---
คัดลอกจากหนังสือ "คำสั่งสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) และประสบการณ์ในยมโลก" โดย พลโทสมาน วีระไวทยะ และพระนิกร ปุญญลาโภ.
Photo : https://pixabay.com/photos/bangkok-buddha-gold-meditation-1128312/