ความเข้าใจเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า

“พระพุทธศาสนา” นับว่าเป็นศาสนาหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ทรงปรารถนาให้มวลมนุษย์ก้าวข้ามสังสารวัฏ หรือการเกิด แก่ เจ็บ และตาย แล้วมุ่งเข้าสู่พระนิพพาน แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะทรงตรัสรู้สัจธรรมอันประเสริฐได้ พระองค์ทรงฝ่าฟันกับอุปสรรคนานาประการ และทรงค้นพบวิธีการดำเนินชีวิตและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างแยบคาย อันเป็นที่มาของหลักธรรมคำสอนต่าง ๆ ในพระพุทธศาสนา
  

//

เรื่องราวของพระพุทธเจ้านั้น คนส่วนใหญ่คิดว่ามีเพียงพระองค์เดียว คือพระสมณะโคดม หรือโคตมะ (เจ้าชายสิทธัตถะ) แต่หากเราได้ศึกษาคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาแล้วจะพบว่า ก่อนหน้านี้มีพระพุทธเจ้าถึง ๒๗ องค์ ที่ทรงอุบัติขึ้นมาเพื่อโปรดสัตว์โลก และพระสมณะโคดมเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๒๘ ซึ่งพระพุทธเจ้าทั้ง ๒๘ พระองค์มีพระนามดังต่อไปนี้

๑. พระตัณหังกร 
๒. พระเมธังกร 
๓. พระสรณังกร 
๔. พระทีปังกร 
๕. พระโกณฑัญญะ 
๖. พระมงคล 
๗. พระสุมน 
๘. พระเรวัต 
๙. พระโสภิต 
๑๐. พระอโนมทัสสี 
๑๑. พระปทุม 
๑๒. พระนารถะ 
๑๓. พระปทุมุตตระ 
๑๔. พระสุเมธ 
๑๕. พระสุชาต 
๑๖. พระปิยทัสสี 
๑๗. พระอัตถทัสสี 
๑๘. พระธัมมทัสสี 
๑๙. พระสิทธิธัตถะ 
๒๐. พระติสสะ 
๒๑. พระปุสสะ 
๒๒. พระวัปัสสี 
๒๓. พระสิขี 
๒๔. พระเวสสภู 
๒๕. พระกกุสันธะ 
๒๖. พระโกนาคมนะ 
๒๗. พระกัสสป 
๒๘. พระโคตมะ 
๒๙. พระศรีอริยเมตไตรย [ในปัจจุบัน “พระศรีอริยเมตไตรย” ยังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ ซึ่งจะมาอุบัติบนโลกมนุษย์ภายหลังจากสิ้นยุคของพระพุทธเจ้าโคตมะแล้ว (หลังปีพุทธศักราช ๕๐๐๐)]

ในสมัยโบราณจะกำหนดว่าเวลาในแต่ละกัป (ระยะเวลาอันนานเหลือเกิน) นั้น จะมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติมากน้อยต่างกันไป ซึ่งถ้ากัปใดไม่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติก็เรียกกัปนั้นว่า “สูญกัป” และจะเรียกชื่อแต่ละกัปตามจำนวนพระพุทธเจ้าที่ได้อุบัติขึ้นดังนี้

(๑) ถ้ามีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๑ พระองค์ เรียกว่า สารกัป 
(๒) ถ้ามีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๒ พระองค์ เรียกว่า มัณฑกัป 
(๓) ถ้ามีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๓ พระองค์ เรียกว่า วรกัป 
(๔) ถ้ามีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๔ พระองค์ เรียกว่า สารมัณฑกัป 
(๕) ถ้ามีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๕ พระองค์ เรียกว่า ภัทรกัป

ในโลกยุคปัจจุบันที่เรามีชีวิตอยู่นี้ เรียกว่า “ภัทรกัป” แปลว่า “กัปเจริญ” ซึ่งในอดีตเมื่อนานมาแล้วมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในภัทรกัปพระนามว่า ‘พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ พระกัสสป' ซึ่งปัจจุบันมีพระพุทธเจ้าพระนามว่า ‘พระโคตมะ' และในอนาคตจะมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติอีก ๑ พระองค์ คือ ‘พระศรีอริยเมตไตรย' ดังนั้น ในภัทรกัปจึงมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติทั้งสิ้น ๕ พระองค์ และเมื่อสิ้นภัทรกัป หรือหลังยุคของพระศรีอริยเมตรไตรยก็จะเข้าสู่กัปอื่น และจะมีพระพุทธเจ้าองค์อื่น ๆ มาอุบัติต่อไป หรืออาจจะไม่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ ก็เป็นได้ ซึ่งเรียกว่า ‘สูญกัป' ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น

THAI CADET

 

© 2547-2567. จัดทำเป็นวิทยาทาน โดย THAI CADET

Made with Pingendo Free  Pingendo logo