http://www.duangden.com
พระราชพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามของเหล่าทหารรักษาพระองค์ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี ๒๕๕๑
 


***

เมื่อวันที่ ๒ ธ.ค. เวลา ๑๖.๒๐ น. ที่ลานพระราชวังดุสิต หรือลานพระบรมรูปทรงม้า มีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามของเหล่าทหารรักษาพระองค์ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี ๒๕๕๑ มี พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.รัชกฤต กาญจนวัฒน์ เสนาธิการทหาร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.ร.อ. รพล คำคล้าย เสนาธิการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.อ.อ.มานิต สพันธุพงษ์ เสนาธิการทหารอากาศ ตามเสด็จพระราชดำเนินทรงตรวจพลสวนสนาม ทั้งนี้ พล.ต.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผบ.พล.๑ รอ. ในฐานะผู้บังคับกองผสม นำทหารรักษาพระองค์จำนวน ๑๓ กองพัน เข้าร่วมพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตน

ต่อมาเวลา ๑๗.๒๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ โดยรถยนต์ พระที่นั่งเปิดประทุน ทะเบียน รยล ๙๖๐ ออกทางประตูทวยเทพสโมสร มายังบริเวณต้นขบวนแถวทหาร ต่อด้วย พล.ต.ไพบูลย์ได้กราบบังคมทูลถวายรายงาน และขอ พระราชทานกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จพระราชดำเนินทรงตรวจพลสวนสนามด้วยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยนายทหารพิเศษประจำหน่วยทหารรักษาพระองค์ ๘ นายตามเสด็จ

ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรวจ พลสวนสนามแล้ว ได้เสด็จขึ้นสู่พลับพลาที่ประทับ ผู้บังคับ กองพันและหมู่เชิญธงชัยเฉลิมพลเข้าประจำที่หน้าพลับพลา ต่อมา พล.อ.ทรงกิตติทูลเกล้าฯถวายพานดอกไม้ ธูปเทียนแพ และนำนายทหารชั้นผู้ใหญ่กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลความว่า

“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอถวายคำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจักยอมตาย เพื่อรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า และจะจงรักภักดีและจะถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่ และจะเชิดชูรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจะปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการ”

ภายหลังถวายคำสัตย์ปฏิญาณเสร็จ ผู้บังคับกองผสมสั่งถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมปล่อยลูกโป่ง และแพรถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ปืนใหญ่ยิงสลุตถวาย ๒๑ นัด และปล่อยลูกโป่ง ๘,๑๐๐ ลูก ภายในสนามเสือป่า

ลำดับต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปยังหน้าพลับพลาที่ประทับ พระราชทานพระบรม ราโชวาทแก่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เข้าเฝ้าฯ และทหารรักษาพระองค์ ความว่า

“ข้าพเจ้าและพระราชินี มีความปลื้มปีติยิ่งนักที่ได้มาอยู่ในท่ามกลางเหล่าทหารรักษาพระองค์ และได้ฟังคำปฏิญาณที่ทุกคนกล่าวอย่างหนักแน่น ขอขอบใจในไมตรีจิตของทุกคน ขอสนองพรและไมตรีนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน คำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้แก่ข้าพเจ้านั้น เป็นสัจจวาจาที่มีค่าควรรักษาไว้โดยเคร่งครัด เพราะเป็นสิ่งที่จะคุ้มครองตัวท่านให้มีความเจริญสวัสดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อที่จะรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของทหารรักษาพระองค์ แท้จริงแล้วการรักษาเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ เหล่านี้มิได้หมายถึง การทำตัวให้เรียบร้อยเป็นสง่า สมกับชั้นยศและตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น แต่ย่อมหมายถึงการ ปฏิบัติหน้าที่ของทหารให้ถูกต้องสมบูรณ์ รวมทั้งการประพฤติ ปฏิบัติตนให้เป็นที่ศรัทธาเชื่อถือของประชาชนด้วย

ดังนั้น ทหารรักษาพระองค์ทุกคนไม่ว่าจะประพฤติหรือปฏิบัติการใด จะต้องระมัดระวังกาย ใจให้มั่นคง เที่ยงตรงให้มีความสัตย์สุจริต และความสมัครสมานสามัคคี มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งอดทน อดกลั้น ถ้าทุกคนมุ่งใจปฏิบัติย่อมมีความเจริญที่จะเกิดขึ้น ทั้งแก่ตัวท่านและหมู่คณะตลอดจนชาติบ้านเมือง เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีของทหารรักษาพระองค์อย่างแท้จริงและยั่งยืน ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับทั้งอำนาจแห่งความภักดีโดยบริสุทธิ์ใจ ต่อชาติบ้านเมืองจงดลบันดาลให้ทหารทุกคนประสบแต่ความสุขความเจริญ และความสวัสดีมีชัยทุกเมื่อไป”

จากนั้น ผู้บังคับกองผสมได้สั่งกองผสมจำนวน ๑๒ กองพัน และกองพันทหารม้ารักษาพระองค์จำนวน ๑ กองพัน สวนสนามผ่านหน้าพลับพลาที่ประทับตามลำดับหน่วย จนกระทั่งเสร็จสิ้นการสวนสนาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯกลับด้วยรถยนต์พระที่นั่ง ผู้บังคับกองผสมพร้อมทหารนำถวายพระพรเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” พร้อมกัน 3 ครั้งเป็นอันเสร็จพิธี

***

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันพุธที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๑

 
 
 
© Webpage Designed by thaicadet.org // Last Updated. Saturday 30 July, 2011 2:12 PM