เพื่อนดอนได้ขึ้นชั้น ๒ และจากผลการสอบ จึงเลือกเรียนได้สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ส่วนผม เรียนสาขาวิศวกรรมอากาศยาน แต่ตอนกลับมาจากกองการศึกษา เราก็ยังอยู่กองร้อยเดียวกัน (เพราะชื่อ “ส” และ “อ” นั่นแหละ) เราลงฝึกด้วยกัน โดนแดกเพราะระเบียบโรงนอนเหมือนกัน เข้าเวรเตรียมพร้อมหมวดเดียวกัน เป็นอย่างนี้จนจบชั้น ๔ และเพื่อนดอนได้ไปเป็น Command น้องชั้น ๑ (น้องรุ่น ๔๑) ตอนเราเข้า น. เวร นนอ. และเพื่อนเข้า ผช. น. เวร นนอ. เรายังได้คุยกันบนโต๊ะกินข้าว น. เวร ใน Tank Farm ว่าวันนี้ น.เวร กรมนักเรียนฯ (นายทหารปกครอง) ฝืดว่ะ จะรวมพลใหญ่ไหมวะ? คงต้องบอกเพื่อนๆ ว่าอย่าเพิ่งรีบโดดไปไหนก่อน ในที่สุด พวกเราก็จบการศึกษา จำที่ผมบอกได้ไหมครับ ความฝันอันสูงสุดของนักเรียนนายเรืออากาศ คือการได้เป็นนักบิน ผมสอบนักบินไม่ได้ แต่เพื่อนดอนสามารถสอบนักบินได้เป็นศิษย์การบินผลัดที่ ๑ รุ่น น.๑๐๙ และทำการฝึกบินที่โรงเรียนการบินกำแพงแสน เป็นเวลา ๑ ปีกว่า ๆ ผมพอรู้ว่าเพื่อนได้เป็นนักบินขับไล่ และมีโอกาสได้เห็นรูปเพื่อนอีกครั้งหนึ่งในหนังสือ “สมรภูมิ” ตอนที่เพื่อนๆ รุ่น ๓๗ ศิษย์การบินผลัด ๑ จบการฝึก Fighter Lead In – L-39ZA/ART โดยเพื่อนดอนใช้นามเรียกขานว่า “DAPPER” จากฝูงบินขับไล่ทางยุทธ์วิธี ๑๐๑ กองบิน ๑ โคราช เพื่อนดอนกับพี่โอ๊ต รุ่น ๓๖ ได้รับคักเลือกให้ไปเป็นนักบินขับไล่ที่ฝูงบิน ๗๐๑ กองบิน ๗ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนดอนได้เป็นนักบินขับไล่เต็มตัว “ลูกจ่าคนหนึ่ง จากบ้านนอก จังหวัดพิษณุโลก ไต่ฝันจนได้เป็นนักบินขับไล่ของกองทัพอากาศ” เพื่อนรู้ไหม ที่เราสอบเรืออากาศก็เพราะเราอยากเป็นนักบิน และเครื่องบินที่สุดยอดที่สุดสำหรับเรา คือเครื่องบิน F-5E/F Tiger II ที่เพื่อนกำลังจะไปทำการบินนี่แหละ เพื่อนดอนได้เป็นเสืออย่างแท้จริงแล้ว
ต้นปี ๒๕๔๗ งานวันเด็กกองทัพอากาศ ทางบริษัท SAAB ได้นำ Mock Up เครื่องบิน JAS-39 C/D “Gripen” มาตั้งแสดงที่โรงเก็บอากาศยาน ฝูง ๖๐๔ กองบิน ๖ ฯ เรายังได้คุยกัน และเพื่อนยังได้คุยกับตัวแทนบริษัท SAAB ที่นำ Simulation ของ Gripen มานำเสนอด้วย ตอนนั้นเราพอรู้ว่า ทอ. จะซื้อเครื่องบินขับไล่ใหม่ และ Gripen ก็เป็นหนึ่งในหลายตัวเลือกที่ ทอ. สนใจ เราเองในฐานะวิศวกรจากกรมช่างอากาศ ก็ได้เคยไปฟังบรรยายสรุปของ Gripen ที่ บก. ทอ. ถึง 2 ครั้ง เรายอมรับว่า Gripen เป็นเครื่องบินที่สุดยอดมาก และมันน่าจะเหมาะกับนักบินขับไล่อย่างนาย
เพื่อนดอนเป็นนักบินขับไล่อยู่กองบิน ๗ ได้ทำการบินกับเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงแบบ F-5A/B/E/F น่าจะครบทุกแบบ เพื่อนยังจำได้ไหม ตั้งแต่พวกเราเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เราก็ได้ยินข่าวการสูญเสียพี่ๆ นักบินเสมอๆ ตั้งแต่พี่รุ่น ๒๔ จากอุบัติเหตุ F-5E ชนน้ำ ที่กองบิน ๗๑ (ในสมัยนั้น), พี่รุ่น ๓๐ จากอุบัติเหตุ T-37C ตก วันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๗ แล้วก็มาพี่รุ่น ๓๑, พี่รุ่น ๓๒ ที่เป็นนายทหารปกครองของเราก่อนจะไปเป็นศิษย์การบิน (PC-9 ตก ที่พิษณุโลก), พี่รุ่น ๓๓ (พี่พัชรเดช ฯ) จาก CT-4A/B ตกหัวสนาม พร้อมครูการบิน และพี่ณรงค์ชัย งามปัก Apha Jet ตกที่หนองบัวลำภู, พี่รุ่น ๓๔ กุลวัฒน์ เนตรมุกดา จากอุบัติเหตุ L-39ZA ฝูง ๔๐๑ฯ ตกที่ตาคลี, พี่รุ่น ๓๕ คือพี่ปลา พี่ตอนโยธา ขาฮา ของพวกเรา CT-4E ตกพร้อมน้องรุ่น ๔๐ ที่กาญจนบุรี, ครูหนอน พี่รุ่น ๓๐ บิน PC-9 ตกที่ใกล้ทางรถไฟ ไปบางลี่ สุพรรณบุรี, พี่รุ่น ๓๖ คือพี่โอ๊ต อาชวิน ฯ อุบัติเหตุ F-5E ตกที่ อ. พุนพิน จ. สุราษฎร์ธานี และรายติดๆ กันคือพี่สมชาย ปัดภัย รุ่น ๒๗ (รอง ผบ. ฝูง ๗๐๑ฯ) และน้องอรุณ หล้าแหล่ง รุ่น ๓๘ ที่ F-5B ตกตอน Take Off ที่สนามบินสุราษฎร์ธานี เช่นกัน พวกเราคิดเสมอว่า วันหนึ่ง เรื่องแบบนี้จะมาถึงรุ่นของพวกเราไหม แล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดก็เป็นจริง ตอนที่เพื่อนป่อง พฤศจิ ฯ บิน AU-23 Peace Maker ตกที่อ่าวประจวบ เราหนีการสูญเสียไม่พ้นจริงๆ ตอนนั้นเพื่อนดอนได้ย้ายมาเป็นครูการบิน PC-9 ที่โรงเรียนการบินกำแพงแสน และมีอุบัติเหตุในเที่ยวบินฝึกครูการบิน ที่ต้องทำการดีดตัวครั้งแรกด้วยความปลอดภัยกับพี่ครูการบินของเพื่อน ตอนนั้น เรายังคิดว่าเพื่อนโชคดีมากๆ พี่ๆ ชนอ. ในเว็บบอร์ด ยังเขียนถึงนายว่า “Dapper นายแน่มาก” เราคิดเสมอถึงการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ต่อมาไม่นานเพื่อนก็แต่งงาน และได้รู้ข่าวดีว่าเมียกำลังท้อง เพื่อนก็มาประสบอุบัติเหตุ PC-9 ตก ในวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๐ ขณะทำการฝึกบินให้น้องรุ่น ๔๓ ที่หัวสนามโรงเรียนการบิน กำแพงแสน