บทความนี้เขียนโดย "พี่แก้ว ชลลดา ชูวงษ์" พี่สาวผู้แสนดีของ นตท.ศราวุธ ชูวงษ์ นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 59 พี่สาวผู้เป็นแรงผลักดันสำคัญ จนน้องชายประสบความสำเร็จ ได้เป็นนักเรียนเตรียมทหารสมความมุ่งมั่นตั้งใจ เชิญติดตามได้เลยครับ

สำหรับน้อง ๆ ที่คิดว่าตัวเองเรียนไม่เก่ง หัวไม่ดี แต่อยากสอบติดเตรียมทหาร พี่จะมาเล่าให้ฟัง น้องพี่เป็นคนไม่ชอบเรียนหนังสือ ติดเกมส์มากกก! สอบได้ที่ท้าย ๆ ของห้อง ไม่เคยทำการบ้านส่งครูเลยเล่นเกมส์ตลอด

แต่พอ ม.1 ย้ายโรงเรียนก็ต้องเรียนพิเศษ เพราะ ม.1 โรงเรียนบังคับว่าต้องปรับพื้นฐาน แต่น้องพี่ก็สไตล์เดิมไม่เรียนกลับบ้านมาเล่นแต่เกมส์ จนครูเป็นห่วง เพราะพื้นฐานของน้องพี่ไม่ดีเลย แกแค่จะจับให้น้องพี่ห่างจากเกมส์

บ้านพี่เลยส่งไปเรียนที่คอร์สกวดวิชาเตรียมทหารที่ครูรู้จัก ก็เหมือนเดิม ไม่ได้ตั้งใจเรียนมากขึ้นเท่าไหร่ เพราะน้องพี่คิดว่าง่าย

มาเปลี่ยนความคิดตอนที่ครูถามว่า จะจบ ม.3 แล้วอยากเป็นอะไร น้องพี่คิดไม่ออก มานั่งคิดว่า อะไรที่เป็นอาชีพที่มั่นคงและพ่อแม่จะสบาย น้องพี่ก็นึกถึงอาชีพข้าราชการทหาร เลยลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเตรียมทหารมากขึ้น เลยขอพ่อกับแม่ไปเรียนพิเศษอีก

พอสอบปีแรกไม่ติดลำดับที่ 1,000 กว่า ๆ ต้องกลับมาเรียนที่เดิม แต่ก็เรียนตั้งใจเรียนมากขึ้น แต่ก็ยังเล่นเกมส์เหมือนเดิม เพราะคิดว่า เวลายังเหลืออีกตั้ง 2 ปี ยังไงก็ติด

จนกระทั่ง ม.4 เทอม 2 ไปเรียนพิเศษทุกวันพุธกับศุกร์ หลังเลิกเรียนถึง 5 ทุ่ม เริ่มจะตั้งใจจริง ๆ อ่านหนังสือตลอดเวลา เข้าแถว กินข้าว หรือเวลาครูสอนจะนั่งท้าย ๆ ห้อง เพื่อทำข้อสอบทุกวัน เลิกเรียนกลับบ้าน อ่านหนังสือ มีเล่นเกมส์บ้างบางวัน

จนหลัง ๆ ไม่เรียนกับที่โรงเรียนมัธยมเลย มีความคิดว่า จะดรอปออกมาเรียนแต่กวดวิชาเตรียมทหารอย่างเดียว น้องพี่ออกจากโรงเรียน 2 อาทิตย์ก่อนสอบจบ ม.4 แล้วไปกวดวิชาติวอย่างเดียว

น้องพี่ก็ใช้วิธีเดิม คือ อ่านทั้งวันฝึกทำข้อสอบ เช้า 8 โมง - ตี 2 ตี3 ที่ติวจะมีเด็กเก่ง ๆ หลายคน น้องพี่จะเข้าไปนั่งประกบเพื่อให้เรามีความพยายามมากขึ้น เริ่มแข่งกับคนอื่น มึงทำได้ 30 ข้อกูต้องทำให้ได้ 35 ข้อ จะแข่งตลอด เพราะวิธีนี้ให้ผลเร็วกว่าแข่งกับตัวเอง พอได้เยอะกว่าคนนี้ก็จะเปลี่ยนคนไปเรื่อย ๆ ไป

การสอบในปีที่ 2 สอบช่างฝีมือติด แต่พอสอบเตรียมทหารพอสอบออกมาก็ยังไม่ติดสักเหล่า แต่อยู่อันดับ 700 กว่า ๆ น้องพี่เสียใจหนักมาก จนมีความคิดที่จะเลิกละ คงไม่ใช่ทาง ที่บ้านก็ได้แต่ให้กำลังใจกันไป เลยคิดจะหาที่เรียนดรอปใหม่ เพราะที่เก่าคือคนสอนไม่ได้อยู่ด้วยตลอดเวลา มาสอบบ้างไม่สอนบ้าง (เลือกที่ผิดชีวิตเปลี่ยน)

พี่ก็เลยพาน้องมาเข้าที่ THAI CADET ที่นี่ครูใส่ใจเด็ก ๆ มาก ๆ ครูบอกถึงข้อเสียที่น้องพี่ยังอ่อนอยู่ ก็เลยหาทางแก้ วิชาที่อ่อน คือ ภาษาอังกฤษ กับคณิต

น้องพี่เหมือนเริ่มใหม่ เพราะวิชาอังกฤษเป็นวิชาที่เกลียดมาก ๆ เริ่มต้นจากการที่ฟังเพลง ดูหนัง เป็นภาษาอังกฤษหมดเลย ท่องศัพท์ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ชอบเลยก็ต้องทำเพราะอยากติด

น้องพี่ตัดเทคโนโลยีหมดเลย ขาดการติดต่อจากโลกไปเลย มีแค่โทรศัพท์ที่โทรหาพ่อแม่เท่านั้น ละทางโลกเลย พอสอบช้างเผือกมาผล คือ ไม่ติด อันดับ 300 กว่า ๆ พอรู้ว่า ตัวเองยังขยันไม่พอ ก็ขยันขึ้นอีก ทำไม่ได้ให้ครูสอนถาม ๆๆๆๆ อยากรู้ตัวเองทำไม่ได้ต้องหาคนเก่งกว่าช่วย พอสอบออกมาในปี 58 ติด 3 เหล่า ทบ.151 ทร. จำไม่ได้ ตำรวจน้ำ ทอ.127 ก็ดีใจกันยกใหญ่

แต่ลำดับรอบแรกมีผลกับรอบสองด้วย ถ้าพละไม่ดีคงจะต้องหลุด น้องพี่เก่งว่ายน้ำ เพราะเป็นนักกีฬา อ่อนคือวิ่ง ครูที่ติวสอนวิ่งกลางแดดทุกวันตอนเที่ยง ๆ ฝึกจนชิน

รอบ 2 ทบ.น้องพี่ได้คะแนน 900+ เลยติดตัวจริงได้เข้ามาเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 59 สมใจอยากอย่างที่ตั้งใจ

ฉะนั้นน้อง ๆ ที่คิดว่าตัวเองเรียนไม่เก่ง หัวไม่ดีคงสอบไม่ติด น้องเปลี่ยนความคิดใหม่ซะ เพราะไม่ใครเก่งมาแต่เกิด ทุกอย่างสำเร็จได้ถ้าเราตั้งใจทำมันจริง ๆ น้องต้องมีเป้าหมายว่า น้องจะทำเพื่ออะไร อยากเป็นจริง ๆ มั้ย กำหนดเป้าหมายแล้วต้องลงมือทำอย่างจริงจัง พี่เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถหมดแต่จะดึงมาใช้ยังไงให้เกิดประสิทธิภาพ สู้ ๆ นะทุกคนพี่เป็นกำลังใจให้

พี่แก้ว

THAI CADET FAMILY

เครดิตภาพประกอบ นักเรียนนายร้อย ศราวุธ ชูวงษ์

นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 59 (เหล่าทหารบก)

ThaiCadetDroppers